บอกรักแฟนได้ แต่ไม่กล้าบอกรักพ่อแม่ |
|
|
|
เขียนโดย Administrator
|
วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2013 เวลา 03:54 น. |

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าการมาวัดเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่าย เพราะการปฏิบัติธรรมมีแต่อะไรที่ซ้ำซาก เดี๋ยวก็สวดมนต์ เดี๋ยวก็นั่งสมาธิ แล้วก็เดินจงกรม แถมยังห้ามส่งเสียงดังอีก จะทำอะไรก็ยุ่งยากไปหมด วันแรกของการนั่งสมาธิ รู้สึกว่าอยากจะปรี๊ดแตก เพราะปวดขา ทรมานมาก พอเริ่มเข้าสู่วันที่ ๓ เริ่มหายปวดและรู้สึกว่าเริ่มตัวเบาสบาย เริ่มมีจิตใจสงบ การมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ทำให้คนที่เคยหลงผิดอย่างข้าพเจ้าเริ่มคิดจะกลับตัวกลับใจ ข้าพเจ้าเคยคิดว่าเราเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ท่านทำให้เราเกิดมา ท่านก็ต้องเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี เราอยากได้อะไร พ่อกับแม่ก็ต้องหามาให้ ข้าพเจ้าอยากได้โน้ตบุ๊คมาก เห็นคนอื่นเขามีก็อยากได้ ขอคุณพ่อ พ่อบอกว่ามันยังไม่จำเป็น ข้าพเจ้าก็ข่มขู่ท่านว่า ถ้าไม่ซื้อให้ข้าพเจ้าจะไม่ไปโรงเรียน จะไม่คุยด้วย ๒ วันผ่านไป คุณพ่อก็ซื้อมาให้ ข้าพเจ้าเคยคิดว่าทำไมแม่ชอบดุด่าว่าเรา ไม่รักเราหรืออย่างไร พอได้ฟังธรรมเกี่ยวกับพระคุณบิดามารดา ข้าพเจ้าก็เริ่มคิดได้ว่าท่านเป็นผู้ให้ชีวิตเรา เราต่างหากที่ต้องเลี้ยงดูท่าน มีหน้าที่เชื่อฟังท่าน ทดแทนบุญคุณท่าน เราติดหนี้ท่านมาตั้งแต่เกิด ข้าพเจ้าจัดงานวันเกิดทุกปีนับต่อแต่นี้ไป ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนจากการจัดงานวันเกิดมาเป็นวันผู้ให้กำเนิด จะนำพวงมาลัยไปกราบคุณพ่อคุณแม่ การปฏิบัติธรรมครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าสำนึกผิดในหลายๆ เรื่องที่เคยหลงทำผิด ข้าพเจ้าเริ่มชอบการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ได้รู้บุญคุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ การนั่งสมาธิสามารถช่วยทำให้จิตใจสงบ อาจจะทรมานแค่ตอนแรก แต่ตอนนี้การนั่งสมาธิช่วยให้ข้าพเจ้ามีจิตที่สงบขึ้น ถ้ามีโอกาสข้าพเจ้าก็อยากกลับมาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้อีก มีอีกอย่างที่ข้าพเจ้าอยากจะทำกับพ่อแม่คือบอกรักพ่อกับแม่ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยบอกรักพ่อ เพราะพ่อทำงานอยู่ต่างจังหวัด กับพ่อแม่จะไม่กล้า แต่กลับบอกรักแฟนได้ทุกวันแทบตลอดเวลา แต่กลับไม่กล้าบอกรักผู้ให้กำเนิด กลับไปข้าพเจ้าจะโทรศัพท์ไปบอกคุณพ่อว่ารักท่านมาก ลูกจะไม่เกเรอีกต่อไป จะพยายามทำดีเพื่อพ่อแม่ ให้สมกับที่ท่านให้ชีวิตนี้กับเรา ให้เราได้มีโอกาสลืมตามาดูโลก น.ส. อจลญา เย็งประโคน ม.๔/๓ โรงเรียนสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
|
แก้ไขล่าสุด ( วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2013 เวลา 04:17 น. )
|