เขียนโดย Administrator
|
วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2013 เวลา 03:21 น. |

เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าอายุได้ ๑๓ ปีตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ในวิชาพุทธศาสนา อาจารย์ให้นั่งสมาธิและ ห้ามคิดอะไรในใจ พอนั่งไปสักพักก็ลืมตา ข้าพเจ้าได้คุยกับเพื่อนที่นั่งในกลุ่มเดียวกันว่า ทำไมข้าพเจ้านั่งสมาธิโดยไม่ให้คิดอะไรนั้น ทำไมทำไม่ได้ เพราะในใจจะคิดตลอดเวลา จะทำโน่นทำนี่ ยิ่งห้ามไม่ให้คิด ใจก็ยิ่งคิด อีกทั้งขาก็เกร็ง ไม่สบายตัว แต่ตอนนั้นอาจารย์ไม่ได้บอกวิธีการกำหนดลมหายใจเข้าออก ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่เข้าใจมาจนบัดนี้ นับจากนั้นเป็นต้นมา ถ้ามีพิธีกรรมอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับการนั่งสมาธิ ข้าพเจ้าจะคิดตลอดว่า "ทำไม่ได้" เพราะจะคิดถึงเวลาที่ขาเกร็ง ส่วนในใจก็คิดเรื่องต่างๆ นานา ตอนนี้อายุได้ ๒๕ ปีมีโอกาสได้เข้ามาอบรมพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้ว ข้าพเจ้าขอบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้าร่วมอบรมธรรมะที่ใดมาก่อน เมื่อเข้ามาที่นี่ ครั้งแรกที่ให้นั่งสมาธิ ความคิดที่กลัวก็กลับมาอีกครั้ง และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือ ปวดขาในใจคิดตลอดเวลา แต่ได้เรียนรู้วิธีการกำหนดลมหายใจจากอาจารย์วิทยากร วันแรกยังทำได้ไม่ดีนัก พอมาวันที่ ๒ เริ่มดีขึ้น เวลานั่งแล้วปวดขาก็จะอดทน และบอกกับตัวเองว่าสังขารนั้นไม่เที่ยง ร่างกายไม่ใช่ของเรา ปวดได้ก็ต้องหายได้ กำหนดลมหายใจไว้ที่ปลายจมูก หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ เมื่อจิตใจจดจ่ออยู่กับการกำหนดลมหายใจ ก็จะลืมความเจ็บปวดไป เมื่อนั่งไปเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่า ไม่อยากลุก สบายกาย สบายใจ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ไม่น่าเชื่อเลยว่า จากนักเรียนชั้น ม.๑ ที่นั่งสมาธิไม่ได้ แม้แต่นาทีเดียวยังเหนื่อย แต่ตอนนี้สามารถนั่งสมาธิได้นานถึง ๑ ชั่วโมงครึ่ง ข้าพเจ้าให้สัญญากับตัวเองว่า เมื่อกลับไปจะฝึกนั่งสมาธิให้ต่อเนื่องเป็นประจำ และจะหาโอกาสพาครอบครัวกลับมาปฏิบัติธรรมที่นี่อีก แน่นอน! ครูสุภนิตย์ ลีนาค โรงเรียนเก็งเต็ก อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา
|