เขียนโดย Administrator
|
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 05:06 น. |
หลักการที่เราจะละอะไร อยู่ที่ศีล ๕ ข้อ จิตใจที่มันโลภๆๆ ปล่อยให้มันโลภไป มันจะขยันทำงานตลอดคืนยันรุ่ง ตลอดวันยันค่ำ ช่างมัน! แต่การกระทำเราไม่ผิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง ทำลงไป
เพราะฉะนั้น อย่าไปเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ละกิเลสโดยถ่ายเดียว เมื่อเราละมันไม่ได้ เราต้องหาเอาประโยชน์จากมัน นี่หลักมันอยู่กันที่ตรงนี้
กิเลสความโลภ เอาไว้กระตุ้นให้มันเกิดทะเยอทะยาน ความทะเยอทะยานคือตัณหา ทีนี้เราจะน้อมมันไปทางไหน จะให้มันทะเยอทะยานไปในทางหาทรัพย์สมบัติหรือ ให้มันทะเยอทะยานไปในทางหาคุณธรรมหรือ ปล่อยมันไป แล้วเอาศีล ๕ ข้อมาตีเส้นขนานเอาไว้ ถ้าการประพฤติสิ่งใดไม่กระโดดข้ามเส้นขนานนี้ มันไม่ผิด นี่! ต้องเข้าใจให้ดี ถ้าเราเข้าใจไม่ดี เราจะไปว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนให้สันโดษมักน้อย สอนให้คนขี้เกียจ งอมืองอเท้า นี่ชาวพุทธเราเข้าใจผิดมา ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้ว พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนให้เราละกิเลสโดยถ่ายเดียวหรอก พระองค์สอนว่า ผู้ใดต้องการประโยชน์ในปัจจุบัน อุฏฐานสัมปทา หมั่นขยันในการทำงาน ลองคิดดูสิ ถ้าคนไม่มีกิเลส หมั่นขยันได้อย่างไร เวลากิเลสเราขึ้นมานี่ ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ทำงานแต่เช้ามืด วันไหนกิเลสมันไม่ตื่น มันก็นอนซมอยู่นั่น
|