หลวงพ่อได้ครูสอนสมาธิคนหนึ่งซึ่งมาช่วยสอนเด็กนักเรียนอยู่เวลานี้  เดิมเขานับถือศาสนาที่มีพระเจ้า เขาสนใจปฏิบัติสมาธิ หลวงพ่อบอกว่า ถ้าคุณจะมาภาวนาอย่างพวกฉัน     กลัวพระเจ้าคุณจะโกรธ   ก็ไม่ต้อง  จะไปนึกถึงพระเจ้าของคุณ กลัวว่าพระพุทธเจ้าจะไม่โปรด   ก็ไม่ต้อง กำหนดรู้อยู่ที่จิตอย่างเดียว  เวลาคุณนั่ง ถ้าจิตของคุณอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้มันนิ่งไป  ถ้ามันคิด ปล่อยให้มันคิดไป  เอาสติเท่านั้น ให้มันรู้ตัวว่าจิตของเราคิดหรือมันนิ่ง  ถ้าเวลามันนิ่งอยู่ รู้  ถ้ามันคิด รู้  นิ่ง..รู้ คิด..รู้  ไล่มันไปอย่างนั้น 

          เมื่อภาวนา จิตสงบ สว่าง  ภายหลังจากนั้นเขามาบอกว่า ศาสนาเดิมมีแต่บังคับให้เชื่อโดยไม่มีเหตุผล   ศาสนาพุทธให้ทุกคนพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตัวเอง  

          "แล้วเธอจะเอาศาสนาไหน"  

          "ศาสนาไหนไม่บังคับ เอาศาสนานั้นแหละ"  

           เวลานี้เขาก็มาศาสนาพุทธเต็มตัว ทั้งๆ ที่เขามาทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเด็กของเรา ก็ยังมีคนมาคิดหวาดระแวงว่าเขาอาจจะมาเปลี่ยนแปลงศาสนาของเราให้เป็นศาสนาของเขา   

          พวกขี้ระแวงทั้งหลาย พวกคนที่ไม่มีความดีพร้อม มีแต่กลัวกับกลัว  ถ้าคนที่มีคุณงามความดี มั่นคงในจิตใจแล้ว ไม่มีกลัวอะไร  

           ชาวพุทธกลัวว่า ศาสนาคริสต์ อิสลามบ้าง เขาจะมาทำลาย ศาสนาพุทธ แต่หลวงพ่อไม่เคยกลัว แล้วก็ไม่กลัวว่าพวกคุณๆ  นี่จะมาทำลายศาสนา  กลัวตัวเองจะเป็นคนทำลายศาสนา  

          ในตระกูลที่มั่งคั่ง เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี คนที่จะทำลายวงศ์ตระกูลของเขา ไม่ใช่ลูกนอกตระกูล  ลูกที่เกิดในตระกูลเขานั่นแหละจะเป็นผู้ทำลาย   

          เพราะฉะนั้น คนที่จะมาทำลายศาสนาพุทธนี่ ไม่ใช่คนศาสนาคริสต์ อิสลาม หรือนักการเมืองที่ไหน  ก็คือคนศาสนาพุทธนี่แหละจะเป็นผู้ทำลาย

           ถ้าพวกคุณๆ หรือลูกหลานทั้งหลายนี่ พากันเรียนศาสนาให้มันจริงๆ ให้มันเข้าใจจริงๆ  พวกเราจะรู้ว่าในเมืองไทยศาสนา พุทธเหลืออยู่กี่เปอร์เซ็นต์ เรียนให้มันเข้าใจเถอะ