อย่าหากินกับพระศาสนา เดี๋ยวจะวิบัติ |
|
|
|
เขียนโดย Administrator
|
วันศุกร์ที่ 04 มกราคม 2013 เวลา 04:01 น. |
ถ้าเราคิดให้มันลึกๆ ซึ้งๆ ลงไป ให้มันถึงแก่นแห่งศาสนา จริงๆ ในวงการพระพุทธศาสนาไม่มีการซื้อขาย พระไปบิณฑบาต ข้าวทัพพีหนึ่ง กับข้าวห่อหนึ่ง หวานห่อหนึ่ง คุณคิดดูซิมันกี่สตางค์ สมัยนี้ เอาละ! คนใส่บาตรพระ องค์หนึ่งๆ ในปัจจุบันนี่ ต้องจ่ายสตางค์ไม่น้อยกว่า ๒๐ บาท ของที่ใส่บาตรแต่ละองค์นั่น
แล้วอย่างพระอย่างเหรียญอะไรที่วัดไปปั๊มมาปลุกเสก ราคามันก็ไม่ถึง ๕ บาท การที่เราจะทำของเหล่านี้มาขาย เขาว่า "เช่า" อันนั้นมันเป็นกัปปิยโวหาร "เช่า" ก็คือ "ขาย" นั่นแหละถ้าพระทำของเหล่านี้ขึ้นมาขาย อาหารบิณฑบาต ๒๐-๓๐ บาท รวมเงินซื้อของใส่บาตรให้ได้ แล้วพระแจกของเหล่านี้ฟรีไม่ได้หรือ เคยมีคนเขาทำมาให้หลวงพ่อ จะให้หลวงพ่อขายพระหาเงินมาสร้างวัด บางทีเขาขายอยู่ที่ศาลาการเปรียญ หลวงพ่อนั่งแจกอยู่ที่กุฏิ จนชาวบ้านเขาว่า เขาทำมาให้จำหน่ายหาเงินมาสร้างวัด หลวงพ่อมีแต่แจก แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาสร้างวัด หลวงพ่อก็บอกว่า ถ้าพระต้องขายสินค้าหาเงินมาสร้างวัดละก็ ควรจะสึกให้หมด เพราะญาติโยมเขาไม่ศรัทธา เขาไม่รับรอง แล้วจะอยู่ไปทำไม วัตถุก่อสร้างที่ปรากฏต่อสายตาของท่านทั้งหลายที่อยู่ในวัดนี้ หลวงพ่อไม่เคยขายอะไรแม้แต่นิดหนึ่ง
เมื่อก่อนมีคนข้างนอกมาอ้างว่าจะทำช่วยหลวงพ่ออย่างนั้นอย่างนี้ พอขายได้ ๑๐๐ บาท เขาให้เรา ๕ บาท นอกนั้น เขาเอาไปสร้างตึกอยู่ ๕ ชั้น ๑๐ ชั้น อันนี้ก็เป็นความฉลาดของเขา หลวงพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มันไม่สมกับคำที่เขามาแอบอ้าง บางทีเขามอบหน้าที่ให้พระมาจัดการในเรื่องนี้ ตอนแรกจะทำอะไรก็มาปรึกษาหารือ หนักๆ เข้าเลยกลายเป็นธุรกิจส่วนตัวของพระไป การที่เรามาแอบอ้างเอาศาสนาหาอยู่หากิน หาผลประโยชน์เข้าใส่กระเป๋าตัวเองนี่มันบาปหนักบาปหนา พระที่เป็นสมภารเจ้าวัดร่ำๆ รวยๆ พอสึกไปแล้วหอบเงินที่เขาจบ ใส่หัวใส่เกล้าไปตั้งหลักตั้งฐาน ไม่เห็นเคยมีใครเจริญสักที หลวงพ่อบวชมาตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี เพื่อนฝูงที่เป็นมหาเปรียญร่ำรวยกัน เป็นพระเป็นสงฆ์ เสร็จแล้วก็หอบเงินของศาสนาออกไป ไปทำมาค้าขาย ไปทำอะไรก็เจ๊ง ไปซื้อที่ดินก็ถูกเขาโกง ไปซื้อวัวซื้อควายมาเลี้ยงห่ากินตายหมด มันเห็นมากับหูกับตา
เพราะฉะนั้น เรื่องของสมบัติศาสนานี่ จริงอยู่ เราเคยบิณฑ์บังสุ์สังสวด เราไปสวดมนต์ให้เขา เขาก็ถวายเรามามันเป็นสิทธิของเราจริง แต่ในฐานะที่เราเป็นคนของศาสนา สมบัติที่เกิดจากบารมีของเรา ต้องเป็นของศาสนา
ศาสนามีหน้าที่ทำอะไรบ้าง - จัดการศึกษาปริยัติธรรมคณะสงฆ์ - ช่วยการศึกษาเด็กยากจน - ช่วยโรงพยาบาลสิ่งใดที่เขาขาดซึ่งรัฐไม่ให้งบประมาณมา เราก็ช่วยเหลือเขาไป อันนี้เป็นกิจธุระหน้าที่ของคนของศาสนา
|