เขียนโดย Administrator
|
วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2013 เวลา 02:42 น. |

มิ้งย้ายมาจากขอนแก่นเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อ เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนครบุรี มิ้งทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังมาเยอะมาก ตอนชั้นมัธยม ๓ มิ้งอยู่โรงเรียนเอกชนนานาชาติประจำจังหวัดขอนแก่น โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนที่รวมทั้งเพื่อนดีๆ และเพื่อนเลวๆ มิ้งคบกับเพื่อนกลุ่มเลว ซึ่งตอนนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก มิ้งทำเลวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาทในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน แต่งตัวผิดระเบียบ โดดเรียน นอนหลับในห้องเรียน เถียงอาจารย์ หรือแม้แต่ขโมยข้อสอบ Final คณิตศาสตร์เพิ่มเติม แล้วเอามาแจกให้เพื่อนๆ ในห้อง หนีออกจากบ้าน หรือแม้จนทำผิดกฎหมาย กับพ่อแม่ หนูกลับบ้านดึกและยังเถียงพ่อและแม่ ขโมยเงินพ่อแม่ไปบำเรอความสุขของตัวเอง ทำให้พ่อและแม่เสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำให้พ่อและแม่ร้องไห้ไม่รู้ว่ากี่หนต่อกี่หน เรียกได้ว่า ตอน ม. ๓ นี้ หนูไม่ต่างอะไรกับเดนสังคมเลย เมื่อมาอยู่ ม. ๔ มิ้งก็คิดได้ว่าเราไม่ควรทำอย่างนั้น ยิ่งย้อนกลับไปมองตัวเองยิ่งรู้สึกน่าสมเพช เมื่อได้มาทำสมาธิที่วัดวะภูแก้ว ก็ทำให้ได้จิตสำนึกมากขึ้น ในขณะที่มิ้งนั่งสมาธิอยู่ มิ้งก็ได้เห็นภาพ ก่อนที่จะเลว เราเคยเป็นคนดี เรียบร้อย พูดจาสุภาพ ขี้อาย ตอนนั้นพ่อกับแม่ต่างก็ยิ้มแย้มและภูมิใจ ที่มีลูกอย่างมิ้ง และก็เห็นภาพตอนที่ทำตัวไม่ดี ทำให้พ่อแม่ผิดหวังและร้องไห้ ทำให้ครอบครัวที่เคยอบอุ่นกลายเป็นไฟ มิ้งจึงร้องไห้ขณะนั่งสมาธิ จนถึงยกที่นั่งสมาธิที่ลานธรรมวันสุดท้าย (วันจันทร์ที่๒๔/๐๗/๒๕๕๕) มิ้งสามารถนั่งสมาธิได้นานมาก จิตสงบมาก นิมิตเป็นภาพรอยยิ้มของพ่อและแม่ยิ้มให้ตลอดเวลาที่ทำสมาธิ จากนั้นก็รู้สึกว่ามือหายไป จากนั้น ขา ลำตัวคอ ก็หายไปตามลำดับ ตอนที่ทำสมาธินั้นรู้สึกเหมือนตนเองมีแต่หัว ร่างกายส่วนอื่นๆ กลายเป็นจุดจางๆ หายไป ออกจากสมาธิและเดินกลับมาที่ศาลาด้วยจิตที่สงบมาก เลยไม่รู้สึกกลัวอะไรเลยเมื่อต้องเดินกลับมาที่ศาลาคนเดียว มิ้งฟาห์ ม.๔/๓ โรงเรียนครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา
|