เขียนโดย Administrator
|
วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2013 เวลา 03:42 น. |

ตอนแรกหนูไม่อยากนั่งสมาธิเลยเพราะทรมานมาก พอวันที่ ๒ หนูเริ่มนั่งได้นานกว่าวันแรก วันที่ ๓ ก็ยิ่งได้นานกว่าเดิม ทำให้หนูรู้สึกภูมิใจมาก ในวันที่หนูนั่งนิ่งได้นานกว่าเดิม หนูส่งจิตคิดว่าในการทำสมาธิครั้งนี้บุญกุศลคงจะถึงพ่อซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว หนูเสียใจมากที่หนูไม่ได้ดูแลท่านเลยเพราะตอนนั้นหนูรู้สึกไม่รักพ่อเลย เพราะพ่อตีแม่หนูและขู่เอาเงินจากแม่ไปกินเหล้า หนูเลยไม่ชอบ ต่อมาแม่กับพ่อก็แยกทางกัน หนูก็รู้สึกเฉยๆ ตอนเรียนชั้นประถม หนูโดนเพื่อนล้อว่าลูกไม่มีพ่อ หนูก็รู้สึกเฉยๆ อีก
อีกประมาณ ๕ ปีต่อมา พ่อหนูก็เสียชีวิต ลุงและป้าส่งข่าวมาให้แม่ ตอนแรกหนูว่าจะไม่ไปเผาศพพ่อ แต่แม่บอกว่าไปเผาก็ไม่เห็นเป็นอะไร หนูก็เลยตัดสินใจไป ตอนแรกหนูพูดว่าหนูจะไม่ร้องไห้ แต่พอไปเห็นรูปของพ่อก็น้ำตาไหล เพราะย่าเล่าให้ฟังว่าพ่อกำลังเก็บเงินไปหาหนู พอหนูได้มาอบรมเข้าค่ายพัฒนาจิตที่วัดวะภูแก้วหนูก็เลยคิดได้ว่า ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นอย่างไร ท่านก็มีพระคุณต่อเรามาก ถ้าไม่มีท่าน เราก็เกิดไม่ได้ และตอนที่หนูนั่งสมาธิหรือเดินจงกรม หนูก็ภาวนาว่าส่วนบุญส่วนกุศลที่หนูทำนั้น ขอให้พ่อของหนูได้รับ และขอให้แม่และผู้ที่เลี้ยงดูหนูมาได้บุญที่หนูได้ทำด้วย น.ส. อริสรา เนนเลิศ ม.๓/๓ โรงเรียนมัธยมด่านขุนทด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
|