เขียนโดย Administrator
|
วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2013 เวลา 02:38 น. |
"กลุ่มสำโรงใหม่จะจัดให้ครูในกลุ่มไปปฏิบัติธรรมที่วัดวะภูแก้ว ๓ วัน" เป็นคำบอกกล่าวจากครูธุรการประจำโรงเรียน คิดในใจ "โอ๊ย ปฏิบัติธรรมอะไรกันอีก" ความทุกข์ในใจก็เริ่มเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าทันที ทุกข์ เพราะไม่อยากมา เนื่องจากตรงกับวันหยุด ถามว่าการไปปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องหนักหนา สำหรับข้าพเจ้าหรือไม่ ขอตอบเลยว่า ไม่ เพราะเคยไปปฏิบัติมาบ้างแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่อยากมาเลย แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของท่าน ผอ. ที่บอกกับคณะครูก่อนมาว่า "คนที่ได้มาที่นี่คือคนที่มีบุญนะ" ข้าพเจ้าก็คงอยากได้บุญก็เลยตัดสินใจมา แต่มีครูในกลุ่มหลายคนที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ บางคนมาแล้วเกิดป่วยก็ต้องกลับไปก่อน บางคนมีภารกิจด่วนก็ต้องรีบกลับไปอีก ทำให้เหลือครูในกลุ่มเราอยู่เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนครูทั้งหมด ก็เลยแอบคิด "เอ๊ะ หรือว่าเราจะมีบุญ" เมื่อมาที่วัดวะภูแก้วก็ได้ฝึกปฏิบัติ ตั้งแต่การถือศีล ๘ นั่งสมาธิภาวนา เดินจงกรม ฟังธรรม ทำวัตรเช้า-เย็น ได้ความรู้เรื่องธรรมะจากคณะวิทยากร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์จริงใกล้ตัวที่ชาวพุทธอย่างข้าพเจ้าไม่เคยรู้มาก่อน ข้าพเจ้าไม่รู้หรอกว่าความรู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าได้จากที่นี่ มันเป็นเรื่องที่มีมาตั้งแต่เมื่อไร แต่สำหรับข้าพเจ้า มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจ บางเรื่องก็เป็นความรู้ใหม่ ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มีความรู้สึกว่าอยากนำความรู้ที่ได้ไปบอกกล่าวเล่าสู่แก่คนที่ข้าพเจ้ารักเหลือเกิน คนแรกที่ข้าพเจ้าอยากบอกกล่าวและเล่าสู่ให้ฟังก็คือ แม่ของข้าพเจ้า และคนที่ข้าพเจ้ารักทุกคน จะลืมไม่ได้เลยก็คือเหล่าลูกศิษย์ตัวน้อยๆ ที่น่ารักของข้าพเจ้า ซึ่งคิดว่าการที่เราปลูกฝังเด็กให้รู้จักบาปบุญตั้งแต่วัยอนุบาลได้ คงดีไม่น้อย และเด็กๆ เองก็คงสนใจมากในเรื่องนรก-สวรรค์ รวมถึงการเริ่มฝึกสมาธิเจริญภาวนาด้วย ถึงแม้ว่าการมาครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิได้ไม่ถึงชั่วโมง แต่เวลาครึ่งชั่วโมงก็ใช่ว่าจะสูญเปล่า ก็ให้ประโยชน์แก่ข้าพเจ้าเช่นกัน เพราะการนั่งสมาธิทำให้รู้สึกเบา สบายกาย สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ธรรมะที่ข้าพเจ้าได้รับและได้ปฏิบัติใน ๓ วันที่วัดวะภูแก้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและหาได้ยาก หรือนี่จะเป็นบุญจริงๆ อย่างที่ท่าน ผอ. บอก ถึงทำให้ข้าพเจ้าได้มาที่นี่ ปฏิบัติธรรม นำสุขมาสู่ข้าพเจ้าได้จริงๆ ด้วย อย่างน้อยๆ จิตใจที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยความทุกข์ใจในตอนก่อนมา ถึงตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันได้หายไปจากใจข้าพเจ้าแล้ว ขอขอบคุณวัดวะภูแก้วคณะวิทยากรที่มอบความรู้ ประสบการณ์ และธรรมทานต่างๆ ให้แก่ข้าพเจ้าทุกอย่างที่ได้รับจะถูกถ่ายทอดสู่ลูกศิษย์และคนใกล้ชิดของข้าพเจ้าต่อไป ครูพจมาศ เบ็ญณรงค์ โรงเรียนบ้านหนองตะครอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์
|